สารจากผู้ก่อตั้ง

ผมได้สังเกตและศึกษาพัฒนาการทางศิลปะในประเทศของเรา ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากว่าสามทศวรรษ ผมพบว่าศิลปะไทยมีความผูกพันธ์อย่างแรงกล้าต่อพระพุทธศาสนา ทั้งในเชิงอุดมคติและเชิงปฏิบัติ กล่าวได้ว่าความมุ่งมั่นเหล่านั้นแทรกซึมอยู่ทุกส่วนของในร่างกายเรา เราได้ซึมซับความงามของศิลปะผ่านผลงานทางพระพุทธศาสนามาตั้งแต่เด็ก เริ่มต้นจากพระพุทธรูปที่เราเคารพนับถือทุกวัน ความงดงามทางศิลปะของสถาปัตยกรรมในวัดต่าง ๆ ได้แก่ ช่อฟ้า ใบระกา และภาพจิตรกรรมฝาผนังในวัดเล็ก ๆ ทั่วประเทศ

แท้จริงแล้ว สังคมที่เจริญแล้วทุกแห่งในโลกนี้ล้วนเริ่มต้นทำงานศิลปะด้วยหลักการเดียวกัน แต่ศิลปินไทยมีความสามารถในการผสมผสานหลักศีลธรรมและขยายความหมายของศิลปะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหลักศีลธรรมดั้งเดิม ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังสามารถสะท้อนความเชื่อที่มีอยู่ในวัฒนธรรมไทยได้อย่างชัดเจน พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย (MOCA) ตั้งใจเก็บรักษาผลงานจิตรกรรมและประติมากรรมร่วมสมัยมากมาย ตั้งแต่เจ็ดทศวรรษที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ด้วยความหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถแบ่งปันความรู้และความบันเทิงให้กับผู้ชม อีกทั้ง เราหวังว่าเราจะสามารถสร้างความประทับใจที่ดีให้กับผู้คนในต่างประเทศที่ตัดสินใจมาเยือนประเทศไทย ด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังในพิพิธภัณฑ์ของเรา ซึ่งหลอมรวมความเป็นไทยที่พวกเขาเคยสัมผัสมาทั้งหมด 

ผลงานศิลปะอันวิจิตรจากศิลปินผเลื่องชื่อหลายท่านที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์เหล่านี้ ได้รับแรงบันดาลใจจากศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ประติมากรจากเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี ผู้ซึ่งได้ขัดเกลาและดึงศักยภาพอันยอดเยี่ยมของลูกศิษย์ออกมา ท่านได้ถ่ายทอดประสบการณ์ส่วนตัวและพัฒนาแนวคิดของลูกศิษย์ซึ่งมีพื้นฐานมาจากวัฒนธรรมไทย และต่อยอดความคิดไปสู่ศิลปะร่วมสมัยที่ได้รับการยอมรับจากหลายประเทศที่เจริญแล้ว ท่านได้ถ่ายทอดประสบการณ์ส่วนตัวและพัฒนาแนวคิดของ

ลูกศิษย์ซึ่งมีพื้นฐานมาจากวัฒนธรรมไทย และต่อยอดความคิดไปสู่ศิลปะร่วมสมัยที่ได้รับการยอมรับจากหลายประเทศที่เจริญแล้ว

ด้วยการสอน ท่านได้ทุ่มเทความพยายามและความมุ่งมั่นให้กับลูกศิษย์ในฐานะครูสอนศิลปะและบิดา ขณะเดียวกัน ท่านต้องต่อสู้กับปัญหาสุขภาพและอุปสรรคมากมายที่ขัดขวางการทำงานร่วมกับข้าราชการไทยบางส่วน เนื่องจากท่านเป็นชาวอิตาลีที่ทำงานในประเทศไทยในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วยเหตุผลที่กล่าวมานี้ เราจึงร่วมกันยกย่องศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี และยกย่องท่านให้เป็นบิดาแห่งศิลปะร่วมสมัย เราหวังว่าก้าวแรกของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะเป็นความกล้าหาญของพิพิธภัณฑ์ในสาขาอื่น ๆ ในการรวมตัวกัน และสร้างศูนย์กลางศิลปะในประเทศไทยให้เป็นที่ยอมรับถึงระดับสากล

เนื่องจากเราเป็นหน้าใหม่ในวงการศิลปะโลก เราจึงพยายามนำเสนอสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยในช่วงเวลาต่าง ๆ เริ่มตั้งแต่ช่วงสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตยจนถึงในเวลาปัจจุบัน ซึ่งปัจจุบันอาจเป็นช่วงเวลาที่แย่ที่สุด เนื่องจากการขาดการสนับสนุนจากรัฐบาลไทยด้วยเหตุผลทางการเมืองที่ไม่มั่นคง อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลานี้ยังคงเป็นช่วงเวลาที่ศิลปินทุกคนจำต้องเอาตัวรอดในโลกที่วุ่นวาย และไขว่คว้าจุดยืนของตนเองเพื่อดำเนินต่อในสิ่งที่พวกเขารัก พิพิธภัณฑ์ของเราจะยึดมั่นในความมุ่งมั่นของศิลปินไทย ในการรักษาเอกลักษณ์ของศิลปะไทยตลอด 80 ปีที่ผ่านมา